mindsetการตลาดที่เปลี่ยนไป
ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามวิถี โลกทุกวันเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าอดีต เราทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะปรับmindset เพื่อที่จะดำรงค์ความอยู่รอดอยู่ในกระแสนี้ให้ได้ รวมถึงเรื่องการตลาดเราเองก็ต้องปรับ mindset เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสโลกที่เปลี่ยนไปเช่นกัน
เมื่อสมการเปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อก่อนเราเดินเคาะประตูบ้านขายสินค้า 100 คนจะมีคนตัดสินใจซื้อ 10 คน แต่ปัจจุบันขายสินค้า 100 คน เป็นไปได้ที่คนทั้ง 100 คนจะตัดสินใจซื้อทั้งหมด
สังเกตว่าการทำตลาดเมื่อก่อน(หรือจะเรียกแบบคุณภาวุธ คือ การตลาดรุ่นเก๋า) จะสังเกตว่าmindset จะออกแนว เจ้าของผลิตภัณฑ์มักจะเริ่มคิดจากความต้องการของตนเองก่อน (บางรายอาจจะใช้งานวิจัยตลาดประกอบบ้าง) จากนั้นเริ่มมีการวางแผนและใช้งบไปในเรื่องของการตลาดแบบมวลหมหาชนหรือ mass marketing นั้นเอง โดยหากเป็นอาวุธจะเป็นอาวุธประเภทแตกกระจายใครหลบไม่ทันก็โดนกันไป บางอารมณ์ก็เข้าไปในช่วงจังหวะที่เขากำลังอินกับละครหลังข่าว ขัดจังหวะทำเอาเสียอารมณ์ก็มี และสิ่งที่เราคาดการณ์ได้ก็เพียงจำนวนกลุ่มเป้าหมายคร่าวๆ และคาดการณ์ได้ยากมากว่ามีผู้คนสนใจกลับมามากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญ คือ การใช้งบการตลาดแบบยิงกระจายนี้มักนิยมใช้ช่องทาง โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ ซึ่งใช้งบประมาณสูงมากๆครับ
การตลาดในยุคปัจจุบันที่นิยมใช้ออนไลน์เป็นเครื่องมือนั้น เราสามารถเริ่มต้นจากของข้อมูลความต้องการลูกค้าที่มีในฐานข้อมูลอยู่แล้ว เช่น การใช้ google adword,การใช้ facebook ad ซึ่งเราสามารถเลือกช่วงอายุ,ความสนใจ,ประเทศหรือจังหวัด การโฟกัสกลุ่มเป้าหมายได้แคบและชัดเจนขึ้นนี้ เราจะสามารถยิงได้ตรงและมีประสิทธิภาพมากกว่า แถมยังใช้งบประมาณทางการที่น้อยกว่าอีกด้วย
เข้าสู่ยุค Big Data
ด้วยการรวบรวมฐานข้อมูลของผู้ใช้ที่มีมากมายในโลกออนไลน์ โดยผู้ให้บริการต่างๆ จึงมีแนวคิดที่จะนำข้อมูลเหล่านี้มาประมวลผลวิเคราะห์แนวโน้มเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อให้ตอบสนองตรงความต้องการกับไลฟ์สไตล์ ความชอบ ได้อย่างตรงตัวแน่นอน ต่อไปเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือผู้ให้บริการจะแข่งกันใช้ Big Data มาสร้างประโยชน์ให้ตรงกับความต้องการกลุ่มเฉพาะหรือ niche market ได้มากขึ้นนั้นหมายความว่า ต่อไปนี้เราจะเสนอบริการและผลิตพันธ์ได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น นั้นคือ เสนอขาย 100 คน ตัดสินใจซื้อ 100 คนได้แน่นอน
หากเราปรับ Mindset ให้กับยุคสมัยได้ทัน โดยแทนที่จะมองเห็นแค่เรื่องความต้องการของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ หันไปมองเรื่องความต้องการของลูกค้า ฟังเสียงลูกค้าให้มากขึ้น และใช้ข้อมูลของลูกค้าให้เป็นประโยชน์ นั้นหมายถึงว่าโอกาสจะเป็นของเราได้อย่างง่ายดายเช่นกัน