เมื่ออัตตาพอกหนา
มันจะฟังแต่เรื่องที่อยากฟัง อยากเห็นแต่เรื่องที่อยากจะเห็น
Pasakon Puyppong(tonypuy)—เรียกผมว่า "นักเรียนรู้คนหนึ่ง"
เปิดพื้นที่การเรียนรู้และพร้อมแบ่งปันของผม
เมื่ออัตตาพอกหนา
มันจะฟังแต่เรื่องที่อยากฟัง อยากเห็นแต่เรื่องที่อยากจะเห็น
ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์คนร้ายคุ้มคลั่งกราดยิงประชาชน และต้องขอชื่นชมจากหัวใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมแรงร่วมใจอดหลับอดนอนคอยให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
มนุษย์ทุกคนไม่เคยเดี่ยวเดี่ยวกับความตาย
เพราะความตายเป็นธรรมชาติร่วมที่ช่างยุติธรรม
ไม่มีคนตายคนไหนกลับมาบอกว่าคนเป็นจะตัองทำตัวยังไงกันแน่
แต่เมื่อความตายมาถึง ความดีเท่านั้นที่จะอยู่ต่อเพื่อเป็นปากเป็นเสียงให้กับคนตาย
ความตายบอกเราเสมอว่าอย่าประมาท
แต่ใครหลายคนก็กล้าเสี่ยงที่จะใช้ชีวิตแบบที่จะตายไม่เป็น
ทุกลมหายใจเข้าออก คือ ความตาย
และรอบตัวก็เต็มไปด้วยความตาย
จิบกาแฟกรุ่น เคล้าไปด้วยสุนทรียะกับการอ่านหนังสือที่ชอบ และความคิดนั้นก็ยังอยู่กับตัวเอง อีกหนึ่งเช้าที่มีคุณค่าและความหมาย
ถ้าโลกนี้มีแต่การให้มันจะงดงามและน่าอยู่เพียงใดนะ ทุกเช้าคงจะมีความหมายมากๆ เพราะเรารู้ว่าเราตื่นมาเราจะให้อะไร? ให้ใคร? ตกกลางคืนมันก็จะดูเบาๆแล้วนอนหลับไป
นั่งฟังเพลง คิดอะไรเพลินๆ จิตประหวัดไปถึง 3 บทเพลงที่สะท้อนถึง ไฟฟัน ตัวเลขของอายุที่เพิ่มมากขึ้นและเวลาที่เหลืออยู่
พรุ่งนี้แล้วสินะที่เราจะต้องไปเผชิญกับชีวิตจริงหลังจากสนุกสนาน พักผ่อน ชาร์ทพลังมากันเต็มที่กันแล้ว หรือบางคนพลังหมดไปกับความสนุกนั้นไปแล้วก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือ เราจะต้องเดินหน้ากันต่อไปกับการงานที่รออยู่ พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรคงไม่สำคัญไปกว่าว่า “เรามองวันพรุ่งนี้เป็นอย่างไร ?
นี้ครบรอบอีก 1 ปีแล้วหรอเนี่ย รู้สึกถึงอะไรที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะวันนี้ที่สิ้นสุดลง พร้อมกับวันใหม่ขอปีใหม่ในวันรุ่งขึ้น หากจะพูดถึงเรื่องของ “วันเวลา” หากจะทำมันเป็นเรื่องปกติหรือวันธรรมดาวันหนึ่งก็คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่สาระสำคัญนั้นมันอยู่ตรงที่จะทำให้วันแต่ละวันเป็นอย่างไรมากกว่า