ขอสติปัญญาจงเพิ่มพูน
หากจะพูดถึงเรื่องการไหว้พระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิเพื่อขอพร เราขออะไรกันบ้าง ขอให้รวย ขอให้สุขภาพแข็งแรง ของให้อยู่รอดปลอดภัย หรือขออะไรอีกมากมาย ที่ผ่านมาผมเองก็เคยขอแบบนั้น แต่วันนี้คำขอของผมเปลี่ยนไป เพราะอะไรรนั้นหรือ โปรดติดตาม
จริงหรือที่เราได้อะไรมาทุกวันนี้ จากการร้องขอแต่เพียงอย่างเดียว ? หากเป็นเช่นนั้นป่านนี้ในโลกนี้คงไม่มีใครจน ไม่มีใครที่เจ็บไข้ได้ป่วย เพราะการขอเป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว จริงไหม?
การร้องขออ้อนวอนนั้นอาจเป็นเรื่องที่ทำให้เรามีความหวัง แต่ไม่ใช่เรื่องที่เราจะชะล่าใจแบบขอเสร็จแล้วกลับไปรอคอยความหวัง ให้ทุกอย่างวิ่งมาหาแบบไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ?
ทุกอย่างมีเหตุและผลในตัวของมัน เราทำงานจึงได้เงิน เราออกกำลังกายและเลือกกินของที่มีประโยชน์ ร่างกายจึงแข็งแรง เราแบ่งปันให้กับคนอื่น จึงมีแต่คนวิ่งหา หากมองไปที่ผล คือ ความร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง ชีวิตอยู่รอดปลอดภัย เราก็ควรจะถามกลับเพื่อไล่ไปถึงต้นสายปลายทางแห่งเหตุว่า ทำอย่างไรจึงจะทำให้ผลเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้?
ปัจจัยสำคัญที่ผมมองเห็นว่าจะนำชีวิตไปสู่ความสุขที่แท้ได้นั้น คือ การมีสติปัญญารู้เท่าทันสิ่งต่างๆรอบตัว นั้นคือ สิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สินใดๆ เพราะกำลังของสตินี้ละที่ผมเชื่อมาจะนำพา ความร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง และความอยู่รอดปลอดภัยในชีวิตตามมา
และการอธิษฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิครั้งต่อๆไปผมจึงมักจะขอสิ่งสำคัญสิ่งนี้ คือ ขอกำลังแห่งสติปัญญาจงเพิ่มพูน เพื่อรู้เท่าทันป้องกันอวิชชาเข้ามาครอบงำจิตใจ ไม่ให้สิ่งเลวร้ายเหล่านั้นฉุดรั้งลงเหวและรบกวนความคิดสร้างสรรค์อันจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในการงาน สาาาาธุ….
Pingback: โปรดระวังในความเข้าข้างตัวเอง | (เข้าข้างตัวเอง)