ลูกจ้าง MLMหรือนักธุรกิจอิสระMLM ?
บางครั้งเรามักกักขังตัวเองด้วยความคิดเดิมๆ แม้จะก้าวไปสู่ที่ใหม่ๆ แต่เรากลับแบกกรงขังนั้นไปด้วย ถ้ายังเป็นแบบนั้น เราอย่าไปคาดหวังว่าชีวิตเราจะดีขึ้นเลยครับ ไม่มีทางเป็นไปได้
ในฐานะที่เป็นนักเรียนแห่งโลกใบนี้ ผมมักใช้ชีวิตแบบตั้งคำถามและเรียนรู้ตลอดเวลา และการที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์แห่งธุรกิจเครือข่ายผ่านมาแล้วประมาณ 7 ปีกว่าๆนั้นผมได้พบว่ามีประเด็นหลายๆอย่างที่ผมสังเกตเห็นและน่าสนใจ ยังไงผมจะถือว่าเป็นการจุดประเด็นโดยความคิดเห็นส่วนตัว เพื่อต่อยอดไปสู่การแลกเปลี่ยนให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆในแวดวงธุรกิจเครือข่ายได้
ความสวยงามของธุรกิจเครือข่ายที่เรามักใช้กันแบบติดระดับฮ๊อตฮิตมาตลอด คือ ตัดสินใจทำธุรกิจเครือข่ายเพื่อต้องการมีอิสรภาพ ต้องการเป็นนายตัวเอง อยู่วงการขายตรงใครไม่เคยได้ยินประโยคนี้บ้าง ยกมือขึ้น?
คราวนี้เรามามองทีละประเด็นครับ
คำว่า “อิสรภาพ” (ที่ผมเข้าใจนะ) มันคือแนวโน้มของการไม่มีสิ่งใดมามีอิทธิพลเหนือเราได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา เงินทอง รวมไปถึงสิ่งที่ไม่ค่อยพูดถึงกัน คือ เรื่องของจิตอกุศล จริงไม?
คำว่า “นายตัวเอง” (ที่ผมเข้าใจนะ) มันคือ การออกแบบชีวิต การทำงาน เวลา ของตัวเองได้อย่างสมดุลไม่หนักไปข้างใดข้างหนึ่ง
ฉะนั้นหากเรามองว่าการก้าวสู่วงการธุรกิจเครือข่ายเพื่อสนองตอบต่อเป้าหมายทั้ง “อิสรภาพ” และ “นายตัวเอง” แล้วนั้น เราก็ควรจะใช้ชีวิตการทำงานที่สามารถควบคุมสิ่งต่างๆได้ด้วยการวางแผนและการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม จึงจะสมกับที่เราประสบความสำเร็กับธุรกิจเคริอข่ายได้ จริงไหม ?
แต่คำถามของผมก็คือ ทำไมคนบางคนที่มักตื่นเต้นกับปรากฏการณ์อันฉาบฉวยของธุรกิจเครือข่าย แล้วตัดสินใจเข้ามาในวงการ จากนั้นหน้าดำคร่ำเครียดทำๆๆๆๆๆ แบบไม่ฟังฟ้าฝน จะรวยๆๆๆๆๆอย่างเดียวจนหน้ามืด สุดท้ายปล่อยให้เวลา เงิน และทุกๆอย่างเป็นนายของเราแบบไม่รู้ตัว บางคนโชคดีรู้ตัวทันก็กลับมาตั้งสติแล้วลุยต่อได้ แต่บางคนมารู้อีกที ต้องสูญเสียทั้งรายได้ ครอบครัว เพื่อนฝูง ไปอย่างน่าเสียดาย
คนบางคนพยายามหนีจากงานที่ไร้อิสรภาพและการเป็นลูกน้องคนอื่น มาเจอกับสิ่งที่ตนเองคิดว่าจะดีขึ้น สุดท้ายก็ต้องมาตกเป็นเบี้ยล่างให้กับเงินตรา เวลา และกิเลสของตนเอง แบบนี้เราอาจจะเรียกเข้าว่า นักธุรกิจอิสระหรือนักธุรกิจเครือข่าย MLM ไม่ได้ แต่น่าจะเรียกว่า ลูกจ้าง MLM มากกว่า จริงไหมครับ?
หากเราจะปรับทัศนคติไปสู่งานแห่งอิสรภาพและการเป็นนายจ้างตัวเองจริงๆ เราคงต้องย้อนกลับมาทนทวนถึง วิธีการทำงานและผลที่ได้รับว่าเป็นไปในทางบวกหรือลดทอนลงอย่างสมดุลกัน ไม่ใช่เอียงไปทางใดทางหนึ่ง เช่น รายได้เพิ่ม สุขภาพดี เพื่อนฟูงนับน่าถือตา แต่ครอบครัวมีปัญหา อันนี้ในส่วนตัวผมก็ยังถือว่าไม่ใช่อิสรภาพ ไม่ใช่ความสำเร็จในแบบธุรกิจเครือข่ายนะครับ
ใกล้ปีใหม่ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสดีที่เราชาวนักธุรกิจเครือข่ายที่ใฝ่หาอิสรภาพที่จะมาตั้งสติทบทวนว่า ต่อจากนี้เป็นต้นไปเราจะก้าวไปสู่ความเป็น ลูกจ้างMLM หรือ นักธุรกิจอิสระMLM จริงๆซะที
ขอให้ทุกคนโชคดีในทางที่ถูกครับ