สร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ไม่ยากอย่างที่คิด
สร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ไม่ยากอย่างที่คิด การสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress เป็นกระบวนการที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมาก โดย WordPress เป็นหนึ่งในระบบการจัดการเนื้อหา (CMS) ที่นิยมมากที่สุดในโลก เนื่องจากมีความยืดหยุ่น ปรับแต่งง่าย และรองรับการทำงานหลากหลายรูปแบบ บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนตั้งแต่การเริ่มต้นตั้งแต่การจดโดเมน การเลือกโฮสต์ การติดตั้ง WordPress การลงปลั๊กอิน การเลือกธีม รวมถึงการบำรุงรักษาเว็บไซต์
1. การจดโดเมนเนม
โดเมนเนมเป็นชื่อที่ผู้ใช้สามารถพิมพ์ในเบราว์เซอร์เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจดจำง่าย สั้น และสะท้อนถึงเนื้อหาหรือจุดประสงค์ของเว็บไซต์ เช่น www.example.com
ขั้นตอนการเลือกและจดโดเมนเนม
- ความยาวของชื่อโดเมน: เลือกชื่อโดเมนที่ไม่ยาวเกินไปและง่ายต่อการจดจำ ตัวอย่างเช่น ชื่อเว็บไซต์
www.bestcakeshop.com
จะดีกว่าwww.thebestcakeshopinyourcity.com
- คำหลักที่เกี่ยวข้อง: ใช้คำหลัก (keyword) ที่สะท้อนถึงธุรกิจหรือเนื้อหาของเว็บไซต์ ชื่อโดเมนที่สื่อถึงสิ่งที่เว็บไซต์ทำจะช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น
- ตรวจสอบความพร้อมของชื่อโดเมน: คุณสามารถตรวจสอบความพร้อมใช้งานของชื่อโดเมนได้จากผู้ให้บริการจดโดเมน เช่น GoDaddy, Namecheap, หรือ Google Domains หากชื่อที่คุณต้องการมีคนใช้แล้ว คุณอาจต้องเลือกคำหรือชื่ออื่นที่ใกล้เคียงกัน
ผู้ให้บริการจดโดเมนยอดนิยม
- GoDaddy: หนึ่งในผู้ให้บริการโดเมนเนมที่ใหญ่ที่สุด
- Namecheap: ให้บริการราคาถูกและใช้งานง่าย
- Google Domains: ให้บริการโดย Google มีระบบจัดการที่ง่ายและน่าเชื่อถือ
- Hostneverdie ราคาไม่แรง ระบบสนับสนุนดี มืออาชีพสุดๆ
2. การเลือกเว็บโฮสติ้ง
โฮสติ้ง (Hosting) คือบริการที่ให้เช่าพื้นที่บนอินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลและไฟล์ต่าง ๆ ของเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้จากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
ประเภทของเว็บโฮสติ้ง
- แชร์โฮสติ้ง (Shared Hosting): เป็นโฮสติ้งที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กที่ไม่ต้องการทรัพยากรมาก อย่างไรก็ตาม การใช้ร่วมกับเว็บไซต์อื่น ๆ อาจทำให้ความเร็วและประสิทธิภาพลดลง
- VPS โฮสติ้ง (Virtual Private Server Hosting): เป็นโฮสติ้งที่มีการแบ่งส่วนของเซิร์ฟเวอร์ให้คุณใช้ทรัพยากรได้มากขึ้น เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมปานกลางถึงสูง
- โฮสติ้งเฉพาะ (Dedicated Hosting): คุณจะได้ใช้เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดเพียงผู้เดียว เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่ต้องการทรัพยากรเยอะ
- คลาวด์โฮสติ้ง (Cloud Hosting): เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการความยืดหยุ่น สามารถปรับขยายได้ตามความต้องการ เช่น หากมีผู้ใช้งานเข้ามาเป็นจำนวนมาก ระบบจะปรับขยายการใช้งานให้โดยอัตโนมัติ
ผู้ให้บริการโฮสติ้งยอดนิยม
- SiteGround: มีความเร็วและความปลอดภัยสูง รองรับการใช้งาน WordPress อย่างดี
- Bluehost: เป็นหนึ่งในโฮสติ้งที่ได้รับการแนะนำจาก WordPress มีราคาไม่แพงและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- HostGator: มีแผนหลากหลายและรองรับการปรับขยายการใช้งานได้ตามต้องการ
- Hostneverdie ราคาไม่แรง ระบบสนับสนุนดี มืออาชีพสุดๆ
3. การติดตั้ง WordPress
WordPress สามารถติดตั้งได้ง่ายและมี 2 วิธีหลักในการติดตั้งคือการติดตั้งแบบอัตโนมัติผ่าน Control Panel ของโฮสติ้ง หรือการติดตั้งด้วยตัวเองผ่าน FTP
การติดตั้ง WordPress ด้วย Softaculous
หลายผู้ให้บริการโฮสติ้งมีโปรแกรมช่วยติดตั้ง WordPress อัตโนมัติผ่าน Control Panel เช่น Softaculous เพียงแค่เข้าสู่ระบบโฮสติ้ง ไปที่เมนู WordPress และทำการติดตั้งตามขั้นตอนในหน้าจอ
การติดตั้ง WordPress ด้วย FTP
- ดาวน์โหลดไฟล์ WordPress จากเว็บไซต์ wordpress.org
- อัพโหลดไฟล์ผ่านโปรแกรม FTP เช่น FileZilla ไปยังโฟลเดอร์ root ของโฮสต์
- สร้างฐานข้อมูล MySQL ใน Control Panel ของโฮสต์
- ทำการตั้งค่าข้อมูลการเชื่อมต่อฐานข้อมูลในไฟล์
wp-config.php
- เข้าสู่ URL ของเว็บไซต์และทำการติดตั้ง WordPress ตามขั้นตอน
4. การลงปลั๊กอิน
ปลั๊กอิน (Plugins) เป็นเครื่องมือเสริมที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ WordPress โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง คุณสามารถค้นหาและติดตั้งปลั๊กอินได้จาก WordPress Plugin Directory ในระบบหลังบ้านของ WordPress
ปลั๊กอินแนะนำสำหรับเว็บไซต์ WordPress
- Yoast SEO: ช่วยปรับแต่ง SEO ของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น
- Akismet Anti-Spam: ป้องกันสแปมในคอมเมนต์
- Wordfence Security: เพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์
- WP Super Cache: ช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ด้วยการแคชข้อมูล
- Contact Form 7: สร้างฟอร์มติดต่อที่ง่ายและปรับแต่งได้
5. แต่งตัวเว็บให้สวยและดูเป็นมืออาชีพด้วยการใช้ธีม
WordPress มีธีมมากมายให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นธีมฟรีหรือธีมเสียเงิน การเลือกธีมที่ดีจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณดูเป็นมืออาชีพและใช้งานได้ง่าย
วิธีเลือกธีม WordPress
- ธีมฟรี: คุณสามารถเลือกธีมฟรีได้จาก WordPress Theme Directory
- ธีมเสียเงิน: มีธีมพรีเมียมให้เลือกมากมายจากเว็บไซต์เช่น ThemeForest ซึ่งจะมีฟีเจอร์และการสนับสนุนที่ดีกว่าธีมฟรี
ปลั๊กอินแนะนำในการใช้ธีม
- Elementor: เป็นตัวสร้างหน้าเว็บแบบลากและวาง ช่วยให้คุณออกแบบเว็บไซต์ได้อย่างมืออาชีพโดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด
6. ปลุกเว็บให้มีชีวิตชีวาด้วยการออกแบบและสร้างเนื้อหา
เมื่อได้ติดตั้ง WordPress และธีมแล้ว คุณสามารถเริ่มสร้างเนื้อหาได้ตามต้องการ โดย WordPress รองรับทั้งการสร้างหน้า (Pages) และบทความ (Posts) คุณสามารถเขียนบทความ อัปโหลดรูปภาพ วิดีโอ หรือลิงก์อื่น ๆ เพื่อสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ
เทคนิคการสร้างเนื้อหาที่ดี
- การเขียนเนื้อหาให้สอดคล้องกับ SEO: ใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้องในบทความของคุณ
- การใช้งานรูปภาพและมัลติมีเดีย: รูปภาพและวิดีโอที่เหมาะสมจะช่วยให้เนื้อหาน่าสนใจและส่งผลดีต่อการจัดอันดับ SEO
7. อยู่ด้วยกันนานๆด้วยการบำรุงรักษาเว็บไซต์
การบำรุงรักษาเว็บไซต์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การบำรุงรักษาที่สำคัญ
- อัพเดต WordPress, ปลั๊กอิน และธีม: เพื่อป้องกันปัญหาด้านความปลอดภัย
- สำรองข้อมูลเว็บไซต์: ใช้ปลั๊กอินเช่น UpdraftPlus เพื่อสำรองข้อมูลเป็นระยะ ๆ
- ตรวจสอบความปลอดภัย: ใช้ปลั๊กอินความปลอดภัยเพื่อป้องกันการโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดี
การสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress อาจดูเหมือนยุ่งยากในตอนแรก แต่ด้วยการเตรียมตัวที่ดีและการติดตามขั้นตอนอย่างละเอียด คุณจะสามารถสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพ