5 เหตุผลที่ทำไมเราถึงต้องปล่อยวางอดีต
อดีต ปัจจุบัน อนาคต หากเรารวบทั้งสามเข้าด้วยกัน แล้วแบกมันไว้บนบ่านานเกินไป จะทำให้การเคลื่อนตัวของเราช้ามากๆ และคงไม่ต้องหาคำตอบให้ยากว่าทำไมเราถึงไม่สำเร็จสักที
วันเวลาถูกสร้างขึ้นมาให้เราได้ทำความเข้าใจ เรียนรู้ และปรับตัวให้เหมาะสมกับองคาพยพของเวลา แต่ก็ยังมีหลายๆคนเข้าใจผิดว่า เวลามัน คือ ปมที่ผูกเงื่อนใหม่และแก้ยากขึ้นเรื่อยๆเพิ่มขึ้นทุกวัน
ปัจจุบันที่เป็นอยู่เราสัมผัสได้ อนาคตที่รออยู่บางทียากจะคาดเดา อดีตผ่านพ้นมาแล้ว แต่ทำไมยังไปจมเจ่าอยู่กับมันทั้งๆที่อดีตมันไม่อยากอยู่กับเรานานๆหรอก แต่เรานี้ละไปกอดคอและอนุญาติให้มันเป็นเพื่อนสนิทของเราเอง เราลองมาดูเหตุผลดีๆของการที่ทำไมเราจจงควรต้องปล่อยวางอดีตกันดีกว่า
- เราทำอะไรกับมันไม่ได้ ก็มันผ่านมาแล้วอะครับ เกิดมาแล้วอะครับ จะทำไงละ ผมเคยได้ยินนักวิทยาศาสตร์เคยพูดกันว่า หากย้อนเวลากลับไปได้ เราเองก็ไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ทำได้อย่างดีแค่เป็นผู้สังเกตการณ์เท่านั้นเอง ดูเอาง่ายๆในชีวิตประจำวันครับ แสงดวงอาทิตย์ที่เราเห็น คือ อดีตของดวงอาทิตย์ในตำแหน่งเดิมเมื่อ 8 นาทีที่แล้ว ตอนที่เราเห็นตอนนั้นดวงอาทิตย์ก็ลับลาอยู่ในตำแหน่งอื่นแล้ว เราทำอะไรกับอดีตไปได้จริงๆครับ
- รกสมองเปล่าๆ อดีตที่เรามักฝังใจและย้ำคิดให้ตะกอนมันฟุ้งซ่านอยู่บ่อยๆ คือ อดีตอันเลวร้าย ซึ่งถ้าอดีตดีๆแล้วนำมาต่อยอดเพื่อสร้างสรรค์ผมจะไม่ว่าอะไรเลย อดีตร้ายๆที่เราไม่เคยลืมจะเข้าไปเบียดพื้นที่สมองจนปัจจุบันอาจคิดเรื่องดีๆไม่ค่อยออกครับ
- ตอกย้ำจนไม่กล้าจะทำอะไรใหม่ๆ บางคนใช้อดีตเป็นแซ่ที่คอยเฆี่ยนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าลองอีกเลย ทั้งๆที่ปัจจุบันสภาวะการณ์มันเปลี่ยนไป จริงอยู่ว่าในอดีตเราอาจพลาดไป ผิดจังหวะ ผิดเทศะไป อย่าไปยึดอดีตเป็นมาตรฐานจนไม่กล้าเริ่มอะไรใหม่ๆอีกครั้งครับ ผมละคิดถึงเพลงเจ้าสาวที่กลัวฝน ของพี่เต๋อ เรวัติขึ้นมาทันทีทันใด
- อดีตไม่ได้มีไว้ตราหน้าตนเอง อย่ายอมให้อดีตตราหน้าตัวเองว่าเรามันคนไร้ค่า เรามันไม่ได้เรื่อง ตยหน้าอดีตกลับคืนด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเองในปัจจุบัน เชื่อเถอะว่าคุณทำได้
- อดีตมีไว้ทำให้เราฉลาดขึ้น หากเราเปิดใจกว้างเรียนรู้ เข้าใจ และปล่อยวางอดีตได้ และเราสมควรอย่างยิ่งแล้วที่จะเรียนรู้ในการปล่อยวางอดีต
หากท่านเข้าใจเหตุผลทั้ง 5 ข้อนี้แล้วก็ลงมือละวางอดีตตั้งแต่บัดนี้ เพราะคนอย่างเราคู่ควรที่จะอยู่กับปัจจุบัน