5 เทคนิคแก้ปัญหาให้คลี่คลายสักที
เคยไหมที่ต้องวนเวียนกับปัญหา ขี่ม้ารอบทุ่ง ผมยุ่งเพราะมัวแต่ดึงหัวตัวเองอยู่นั้น ทำไมปัญหาเดิมๆ เกิดขึ้นซ้ำๆ ไม่จบสิ้นสักกะทีมาหาทางออกกันกับข้อเขียนสั้นๆชุดนี้ครับ
ปัญหาที่แก้ไม่ตก แถมเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็เหมือนกับนั่งดูหนังม้วนเดิม เพิ่มเติมตรงความเบื่อหน่ายที่ดูเหมือนไม่จบสิ้นสักที คงไม่มีใครจมอยู่กับอาการนั้นนานเกินไป เพราะนอกจากจะฉุดรั้งเวลาแห่งการก้าวไปสู่ความสำเร็จให้ยืดยาวออกไป ยังสร้างความเครียดสะสมกลายเป็นผลร้ายต่อสุขภาพกายและจิตตามมาอีก
เรามาร่วมเรียนรู้ 5 เทคนิคการแก้ปัญหาให้คลี่คลายสักทีกันดีกว่าครับ
- ยอมรับว่าเราก็มีส่วน เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่หลายคนบอกทำยาก ปากอาจพูดได้ว่ายอมรับแต่ใจนี้สิมันติดเหง็กยากจะแกะออก แต่ทำยากก็ต้องทำก่อนครับ เพราะการยอมรับนั้นเป็นเรื่อง แรกที่เราจะต้องทำก่อนลงมือแก้ปัญหา เปิดใจกว้างๆแล้วยอมรับเถอะครับว่า เราเองก็คือส่วนหนึ่งของปัญหา และใครอีกละที่เกี่ยวข้องบ้าง? และปัจจัยไหนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาได้ ส่วนใหญ่ที่ผมสังเกตเห็น คือ การไม่ยอมรับว่าเราก็ คือ หนึ่งในปัญหา และก็มัวแต่โทษคนอื่นอยู่นั้น แล้วเมื่อไรจะแก้ปัญหาได้ละครับ ในเมื่อเราเองก็มีส่วนในการผูกปมไปกับเขาด้วย
- จมอยู่กับปัญหามากเกินไป บางทีเราก็อาจจะเคร่งเครียดสุดจะตึงกับปัญหามากเกินไป พยายามจะหาทางออกจนไม่กินไม่นอน ยิ่งหายิ่งไม่เจอ ลองผ่อนคลายสบายๆ ถอยออกมาจากหลุมดำของปัญหาบ้าง แกล้งๆไม่สนใจบ้าง ในช่วงเวลาตกผลึกอาจจะเกิดอาการปิ๊งแว๊บ ยูเรก้า ขึ้นมาเจอทางออกปัญหาสว่างว้าบขึ้นมา ไม่เชื่อก็ลองทำดูครับ
- เรียนรู้อะไรบ้างละ เมื่อปัญหาเกิดแล้ว และเราก็ยังแก้ไม่ได้ หรือแก้ปัญหาเก่าจนสำเร็จในระดับที่เราพอใจแล้ว สิ่งสำคัญที่เราต้องถามตัวเองเวสมอ คือ เราเรียนรู้อะไรจากปัญหานั้นๆบ้าง? เพื่อจะได้เก็บบทเรียนเข้าตำราชีวิตไว้ใช้ในคราวต่อไป เพื่อที่จะไม่ต้องไปเสียเวลาหาทางเริ่มใหม่อีก
- แก้ไม่ได้ก็ไม่ถึงตายนะ ปัญหาทุกปัญหาผมเชื่อว่าถ้าแก้ไม่ได้ ก็ไม่ถึงตาย หรือหนักหนาสาหัตไปกว่าที่เรา คิดไปเองหรอกครับ ทำไงได้ละครับถ้าคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว ก็คงต้องรู้จักปล่อยวางและได้แต่หวังว่าวันนี้แก้ไม่ได้ วันพรุ่งนี้ หรือวันอื่นๆเราเรียนรู้เพิ่มเติมมากขึ้นอาจจะแก้ได้แบบง่ายๆก็เป็นได้
- ใช้ตัวช่วยบ้างก็ดีนะ บางครั้งเราอยู่กับตัวเองและวนเวียนกับความคิดเดิมๆของตัวเองมากเกินไป เราลองหาตัวช่วยเพื่อหามุมมองที่แตกต่างจากเพื่อน พ่อ แม่ ผู้เชี่ยวชาญ หรือแม้กระทั่งเด็กๆ อย่าดูถูกเด็กนะครับ หากเรารู้จักการสังเกตวิธีคิดแบบเด็กๆ เราก็สามารถที่จะนำมาคลี่คลายปัญหาได้ และนอกจากตัวช่วยที่เป็นบุคคลแล้ว หนังสือดีๆ หนังดีๆ เพลงดีๆ ก็สามารถนำมาเป็นตัวช่วยในการคลี่คลายปัญหาได้เป็นอย่างดีครับ
ผมยังเชื่อในประโยคที่เคยได้ยินบ่อยๆว่า ทุกปัญหามีทางออก ถ้าไม่มีทางออกและเรายังพยายามหามัน สุดท้ายก็หาได้อยู่ดี ฉะนั้นเทคนิค 5 ข้อดีขอฝากไว้ให้ทุกท่านนำไปประยุกต์ใช้ ได้ผลยังไงก็ฝากกันไว้ในคอมเมนท์ด้วยนะครับผม
