เมื่อความสุขมาบรรจบ
ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนสร้างได้ แต่จะง่ายหรือยากนั้นไม่มีสูตรสำเร็จ ถามใจตัวเองให้ดีว่าเรากล้าที่จะมีความสุขในแบบของตัวเองได้มากแค่ไหน ?
คำถามที่ผมมักถามเพื่อนๆหรือคนที่นานๆเจอกันที คือ ยังมีความสุขอยู่หรือเปล่า ? เป็นคำถามที่เหมือนจะตอบง่ายๆแต่หลายคนที่ถูกถามอำอึ้งไปพักใหญ่ๆ และหลายคนยังไม่แน่ใจกับชีวิตที่ดำเนินอยู่ แต่บางคนก็เหมือนกับว่าจะพยายายามหาคำตอบกันต่อไป
จริงอยู่ว่าคนเราไม่สามารถมีความสุขได้ตลอดเวลา แต่เราก็สามารถที่จะเลือกว่าจะสุขหรือทุกข์มากกว่าได้ สังเกตไหมว่าในสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น คนสองคนยังรู้สึกว่าทุกข์หรือสุขในแบบที่แตกต่างกัน บางคนอาจสุขได้ในสถานการณ์นั้น แต่บางคนสุดจะทุกข์ในเหตุการณ์เดียวกัน เพราะอะไร ?
มุมมอง ประสบการณ์ การใช้ชีวิต และทัศนคติ หล่อหลอมให้เราเป็นเราอย่างที่คนอื่นๆเห็นเราในปัจจุบัน ความสุขเป็นเรื่องสภาวะ เป็นเรื่องของท่าทีต่อเหตุการณ์ ย้ำนะครับว่าไม่ใช่แค่เหตุการณ์แต่เป็นท่าทีหรือการแสดงออกต่อเมื่อเหตุการณ์นั้นๆได้เกิดขึ้นแล้ว ยกตัวอย่างเช่น คนขับรถปาดหน้า แต่เดชะบุญยังเหยียบเบรกทัน นาย ก. ปี๊ดจัด อารมณ์พลุ่งพล่าน กร่นด่า คู่กรณีแบบขุดทุกอย่างในโลกนี้มาด่า แต่ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น นอกจากการแบกความทุกข์กลับไปอารมณ์เสียที่บ้านต่อ สลับฉากมายังนาย ข. ก็เจ้าคนเดิมนั้นละที่ขับรถปาดหน้า เดชะบุญนาย ข. เหยียบเบรคทัน กลับมองว่าดีนะที่เบรกทัน เรายังสติดีนะเนี่ย เขารีบเพราะเขาอาจมีธุระด่วนก็เป็นได้ อภัยให้เขาเถอะ แล้วนายข. ก็รับความสุขกลับไปบ้าน คงไม่ต้องเดาเหตุการณ์ต่อนะครับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต่อที่บ้านของนาย ก. และข. จะลงเอยอย่างไร ที่แน่นอนงานนี้มีบ้านแตกแน่นอน
จริงๆแล้วความสุขมีได้ไม่อยาก ผมหมายถึงว่าความสุขในแบบของตัวเองที่อยู่ในครรลองของความดี เพียงเราเปิดใจเรียนรู้เรื่องทุกข์ด้วยความเข้าใจ และสร้างปัจจัยปรับวิธีคิดให้ความสุขมาบรรจบให้ได้ทุกวัน เพียงเท่านี้เราก็จะอยู่ในสังคมโลกที่ดูเหมือนจะวุ่นวายนี้ได้อย่างเข้าใจและมีความสุขได้ตลอดไป
เปิดใจให้กว้างแล้วปล่อยให้ความสุขมาบรรจบกันเถอะครับ