อย่าให้ใครมาแย่งเช้าดีๆของเราไป
จิบกาแฟกรุ่น เคล้าไปด้วยสุนทรียะกับการอ่านหนังสือที่ชอบ และความคิดนั้นก็ยังอยู่กับตัวเอง อีกหนึ่งเช้าที่มีคุณค่าและความหมาย
การตื่นเช้าเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่า หากว่าเรารู้คุณค่าและรีบลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น ความเป็นไปของเช้านี้อาจตัดสินความเป็นไปของทั้งวัน และอาจชี้อนาคตของชีวิตทั้งปีก็เป็นได้
แน่นอนว่าการตื่นแต่เช้า คือ เวลาที่เราได้เพิ่มขึ้นมากกว่าการตื่นสาย นั้นคือ เราได้มีเวลาคิดวางแผน มีเวลาสะสางอะไรบางอย่าง มีเวลาสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้มากกว่า
การตื่นเช้านั้นก็คงไม่ดีทุกครั้งไป บางทีเราอาจต้องตื่นเช้าด้วยเหตุจำเป็นอื่นๆจนกลายเป็นความเคยชิน ทั้งๆที่เมื่อคืนนอนดึกกะจะตื่นสายสุดท้ายยังต้องมาตื่นเช้า หรือ เมื่อคืนฝันร้ายพอจะตื่นขึ้นก็ยังงัวเงีย ฉะนั้นคุณภาพของการตื่นเช้าก็ย่อมเชื่อมโยงไปกับคุณภาพการนอนด้วย
แม้จะตื่นแต่เช้าได้แต่ก็มีเหตุหลายอย่างที่มาแย่งเช้าดีๆจากเราไป เช่น ความหงุดหงิด อารมณ์เสีย จากความไม่พร้อม (อาจเพราะตื่นสาย) และอื่นๆที่เข้ามาทำลายเช้าดีๆของเรา แบบว่าน่าจะเริ่มเรื่องดีๆในวันนี้ได้ กลับเริ่มต้นได้ไม่สวยและซวยไปทั้งวัน ซึ่งจริงๆแล้วไอ้เรื่องดีๆมันเกิดขึ้นแล้ว เราลืมไปเองว่าเราสามารถเลือกได้นะว่าจะรู้สึกกับเรื่องนั้นหรือคนนั้นอย่างไร ยกตัวอย่างง่ายๆว่า ขณะที่กำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ด้วยความรีบร้อน เราดันไปชนกับมุมโต๊ะอย่างจัง แบบนี้จะด่าโต๊ะหรือยอมรับว่าเป็นความซุ่มซ่ามของตัวเอง ถ้าด่าโต๊ะโต๊ะย่อมไม่รับรู้ คราวหน้าเราเดินมาชนมันอีก แต่ถ้ามาทบทวนที่ตัวเรา คราวหน้าระวังขึ้น อาจรอดจากการชนโต๊ะได้ คิดได้แบบนี้ก็ต้องขอบคุณโต๊ะที่ให้บทเรียนเรา
กฎแห่งแรงดึงดูดยังใช้ได้ดีกับการตื่นเช้าแล้วคิดแต่เรื่องดีๆ วันทั้งวันก็จะมีแต่เรื่องดีๆวิ่งเข้ามาหา ไม่เชื่อลองดู
อย่าให้ใครหรือสิ่งใดมาแย่งเช้าดีๆจากเราไป
