เลี้ยงลูกให้ได้เรื่อง

10 วิธีเลี้ยงลูกเลี้ยงลูกให้รอดในศตวรรษที่21

ยุคสมัยแห่งนี้ มองไปรอบตัว อะไรๆก็เปลี่ยนไปเร็ว เทคโนโลยีพัฒนาเร็วจนวิ่งตามแทบไม่ทัน ใจคนก็เปลี่ยนจนเดาได้ยาก มองกลีบไปที่ลูกสาวก็เกิดอาการคิดมาก ไม่ได้คิดว่าเขาจะเรียนเก่งไหม? จะเรียนได้เกียรตินิยมไหม ? ได้งานดีๆทำไม? ไม่ได้มองแค่นั้น แต่กลับมองว่า ลูกฉันจะมีทักษะการเอาชีวิตให้รอดและผ่านมันไปได้อย่างงดงามได้อย่างไร ?

เพียงแค่ความกลัวก็ไม่อาจจะทำตัวให้นิ่งเฉยหรือทำใจแล้วคิดว่าปล่อยให้มันเป็นไป แต่ในใจกลับมองว่า การสร้างภูมิคุ้มกัน ติดอาวุธ สร้างเสบียงทางปัญญาให้เขาได้นำไปใช้ในภายภาคหน้า ในตอนที่เราไม่ได้อยู่บนโลกนี้ และเขาต้องเผชิญโลกนี้อย่างกล้าหาญ

อยากแบ่งเป็นวิธีการดีๆ แต่อาจจะไม่ดีที่สุดในเรื่องของการเรื่องลูกให้ได้เรื่อง ซึ่งก็ได้พิสูจน์ด้วยตัวเองและทดลองจริงกับลูกสาว ก็เริ่มเห็นอะไรดีๆเกิดขึ้นบ้างแล้ว เอาละมาเริ่มกันเลย

10 วิธีเลี้ยงลูกให้ได้เรื่อง ในแบบ Tonypuy

  1. หัดให้ลูกอ่านให้ออก เขียนให้ได้ ด้วยวิธีการชิวๆไม่บังคับ โดยอาจใช้เงื่อนไขมีของรางวัลที่เขาชอบมากๆมาล่อใจ ซึ่งก็พอมีตัวอย่างที่ลูกสาวทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี กับ ฝึกลูกให้รักการอ่าน กับโปรเจค 30 วัน 30 เล่ม (เข้าไปศึกษาได้ตามลิงค์ที่ให้ไว้ครับ) และไม่จบเพียงโปรเจคนี้ เรายังต้องสร้างบริบทแวดล้อมอื่นๆเพื่อให้ลูกสนใจการอ่านมากขึ้น ซึ่งทุกวันผมยังต้องอ่านนิทานก่อนนอนให้ลูกฟังและที่สำคัญคือ ตัวผมยังต้องอ่านเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นอยู่เสมออีกด้วย  ผมมองว่าการฝึกให้ลูกอ่านออก จะมีผลต่อการเรียนรู้โลกได้กว้างขึ้นผ่านการอ่าน
  2. ฝึกให้ลูกรับผิดชอบแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย หลายครั้งที่ผมต้องอดทนไม่ใจดีตนเกินไป ปล่อยให้ลูกสาวได้ทำอะไรด้วยตนเองบ้าง และคำที่ผมมักจะใช้เสมอคือ “ลูกโตแล้วหัดทำอะไรเองบ้างนะ” เริ่มจากเรื่องเล็กน้อย เช่น การตักข้าวกินเอง,การบีบยาสีฟัน,อาบน้ำถูสบู่เอง ปล่อยเขาทำเถอะครับ อาจจะต้องอดทนเก็บกวาด เลอะเทอะบ้าง แต่ผมว่าคุ้มนะ ถ้าจะแลกกับการทำเขาได้เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบเรื่องเล็กๆแบบนี้ ก่อนที่เขาจะโตเป็นผู้ใหญ่และไปรับผิดชอบเรื่องใหญ่กว่านี้
  3. ฝึกให้ลูกมีวินัยอย่างสม่ำเสมอ วินัย คือ สิ่งสำคัญที่จะทำให้เขาเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้า สังคมวุ่นวายเพราะเด็กเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ขาดวินัย เล็กๆน้อยๆผมจะไม่มองข้ามนะ เช่น การเดินในที่สาธารณะผมมักจะสอนให้ลูกระมัดระวังคนเดินไปมาหลีกทางให้คนอื่น อย่าขวางทางคนอื่น หรือ การทิ้งขยะเรีียราดผมจะสอนให้ลูกสาวต้องหยิบไปทิ้งลงถังเสมอ การนอนเป็นเวลา เล่นเป็นเวลา เริ่มจากเรื่องแบบนี้ให้ลูกฝึกวินัยจนเกิดเป็นความเคยชินในทางที่ดี
  4. ฝึกให้ลูกรู้จัก ขอโทษ ขอบคุณ ให้อภัย สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือ การสูญพันธุ์ของ 3 คำนี้ ขอโทษ ขอบคุณ และ ให้อภัย เมื่อมีใครทำอะไรให้หรือให้อะไรกับลูกสาว ผมจะถามเธเสมอว่าขอบคุณเขาหรือยัง หรือถ้าอยู่ต้อหน้าผมจะบอกเธอให้ขอบคุณตรงนั้นเลย ไม่เว้นแต่การที่พนักงานบริการเสริฟน้ำเปล่าให้ เริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ และเมื่อทำผิดผมก็มักจะย้ำให้ลูกสาวลูกจักกล่าวคำขอโทษ จนหลังๆถ้าเธอทำผิดก็แค่ขึงตาดุใส่เธอก็จะรู้ตัวเองแล้ว ส่วนการให้อภัยก็อาจต้องใช้เวลาและค่อยๆให้ลูกซึมซับอย่าให้เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่เธอมักจะเล่าเรื่องความขัดแย้งกับเพื่อนที่โรงเรียนให้ฟังเสมอ ผมมักจะบอกเธอเสมอว่า เล็กๆน้อยๆก็ต้องรู้จักอภัยให้เพื่อนบ้างนะลูกนะ
  5. ฝึกให้ลูกมีความพยายาม ยับยั้งความง่ายที่จะทำให้ลูกทุกอย่างจนสุดท้ายลูกทำอะไรไม่เป็น หรือกลายเป็นคนมีความอดทนต่ำ ผมมักจะใช้วิธีทำเป็นเฉยๆและปล่อยให้ลูกพยายามเองสักพัก เธออาจงอนบ้าง หงุดหงิดบ้าง แต่เราก็ต้องอดทน มันง่ายนะที่จะทำให้เรื่อง แต่มันจะยุ่งยากแน่นอนถ้าเขาโตขึ้นเป็นคนที่มีความพยายามต่ำ สุดๆจนเธอทำไม่ได้ ผมมักใช้วิธีช่วยกันทำให้ภารกิจนั้นสำเร็จจะดีกว่า
  6. ฝึกให้ลูกอ่อนน้อมถ่อมตน ความอ่อนน้อมถ่อมตนจะนำพาความเจริญก้าวหน้ามาสู่ลูกของเรา การฝึกให้ลูกลูกจักให้ความเคารพผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่เราต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ง่ายๆที่ทำได้เกือบทุกวัน คือ การยกมือไหว้คุณพ่อ คุณแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ก่อนคุณลูกจะไปโรงเรียน
  7. ฝึกให้ลูกใฝ่รู้ ผมดีใจนะที่ลูกชอบตั้งคำถาม แต่ผมมักจะไม่ให้คำตอบทันที แต่จะแนะนำให้ลูกไปลองหาคำตอบจากแหล่งต่างๆ เช่น youtube หรือ หาหนังสืออ่านเท่าที่เขาจะสามารถทำได้เพื่อฝึกวิธีการได้มาซึ่งความรู้
  8. ฝึกให้ลูกรู้จักตั้งคำถาม อย่าเพิ่งรำคาญกับคำถามมากมายกับเจ้าหนูจำไมสุดที่รักของเรา ผมรู้สึกดีที่ลูกสาวมีคำถามเยอะๆ นั้นหมายถึง ความสามารถในการเริ่มต้นออกหาคำตอบ ซึ่งนำไปสู่วิธีการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ได้ในอนาคต
  9. ฝึกให้ลูกรักสันติ ผมมักจะขอพรเสมอว่า “ขอให้โลกสงบสุข” (ยังกับพระเอกหนังไทยเลย) การไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกันถือเป็นเรื่องดี ผมมักสอนลูกสาวให้ใช้ความประนีประนอมกับเพื่อนๆในตอนที่มีปัญหากัน ถ้าไม่ไหวจริงๆ เช่น เพื่อนไม่ฟัง,เพื่อนแกล้งตลอด ก็แนะนำให้ไปแจ้งครูให้ผู้ใหญ่เขาช่วยแก้ปัญหา
  10. ฝึกให้ลูกรู้จักเห็นใจ เมตตา และช่วยเหลือคนอื่น ดีใจที่วันหนึ่งลูกเอ่ยปากออกมาว่า “สงสารเขานะพ่อ” หรือ “สงสารมัน(กรณีเป็นสัตว์เลี่ยง)นะพ่อ” เพราะนั้นแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เมื่อเห็นคนที่ทุกข์หรือลำบากกว่าผมมักจะชี้ให้ลูกสาวเห็นว่าเห็นไหมว่าเขาลำบากกว่าเรา เรายังมีอะไรดีๆมากมาย ให้มองเห็นและจงภูมิใจในคุณค่าของตน สอนให้เรียนรู้เรื่องของการบริจาค เล็กๆน้อยๆ เช่น ให้เงินเขาไปหยอดตามกล่องบริจาค,การให้ทิปกับเด็กปั๊มแก๊สพร้อมทั้งอธิบายให้เขารู้เหตุผลของการให้ หรือแม้กระทั่งตุ๊กตาหรือเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วก็จะพยายามพาลูกสาวนำไปบริจาคให้กับคนที่เขาต้องการ

อาจมีสิ่งสำคัญอื่นๆอีกมากมายที่จะเป็นการสอนลูกให้ได้เรื่อง แต่10 หัวข้อหลักๆนี้ผมจะถือว่าเป็นหน้าที่ประจำที่ต้องทำให้เกิดขึ้นกับลูกสาวอย่างสม่ำเสมอ หรือใครอยากแลกเปลี่ยนหรือมีอะไรเพิ่มเติมยินดีเปิดรับนะครับ

tonypuy

รักเรียนรู้ กู้บ้างพอเป็น drive รักท่วงทำนองดนตรี ครีเอตคอนเทนต์ไปเรื่อย

One thought on “10 วิธีเลี้ยงลูกเลี้ยงลูกให้รอดในศตวรรษที่21

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.