5 เทคนิคสกิดใจป้องกันภัยจากคนห่วยๆ
เคยไหมที่ต้องทนหงุดหงิด โงนเงน งงงวยอยู่กับคนห่วยๆ จนทำให้ต่อมความคิดสร้างสรรค์อุดตัน แบกความทุกข์อยู่ได้ทั้งวัน เรามาลองทำใจสบายๆและนำเคล็ดลับทั้ง 5 ต่อไปนี้ไปเป็นเกราะป้องกันไม่ให้คนห่วยๆมาทำร้ายเรากันดีกว่าครับ
ในชีวิตประจำวันเราอาจเจอผู้คนหลากหลาย แต่ประเภทที่ไม่อยากเจอ คือ คนที่เราไปยุ่งด้วยแล้วพาลแต่จะเสียการเสียงาน และผมจะขอเรียกสั้นๆว่า “คนห่วยๆ” เมื่อเจอคนห่วยๆเราจะทำอย่างไรเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คนห่วยๆนั้น ทำร้ายจิตใจและร่างกายเรามากเกินไป
อย่าเป็นคนห่วยด้วยการตอบโต้คนห่วยๆด้วยปฏิกริยาแบบห่วยๆของคุณเอง
5 เทคนิคพิชิตคนห่วย
- ขอโทษไว้ก่อน
ขอโทษ คือ ยาวิเศษที่จะคลี่คลายและตัดวงจรเรื่องร้ายๆที่จะเกิดรุนแรงขึ้น อย่างวันก่อนผมเห็นข่าวหนึ่งที่คนขับรถยนต์ไปสะกิดคนมอเตอร์ไซด์จนเกือบล้ม คนขับมอเตอร์ไซด์โมโหจัดจะจอดรถมาเอาเรื่อง แต่คนขับรถยนต์ก็จอดแล้วเปิดประตูไป คำแรกที่เขาพูดจากใจ คือ คำว่า “ขอโทษ” ทุกอย่างเลยจบได้ด้วยดี เพราะฉะนั้นถ้าเจอคนห่วยๆครั้งต่อไป เราทำผิดอะไรก็ขอโทษไว้ก่อนนะครับ - จูงใจไปทางบวก (แล้วลากไปทางที่ดี)
เป็นความท้าทายที่เราจะใช้สรรพกำลังทางความคิดและประสบการณ์เพื่อที่จะจูงใจให้คนห่วยๆมาคิดบวก ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องใช้ความเมตตาสุดๆในการคลี่คลายปัญหากับคนห่วยๆ โดยอย่าทำตัวสูงกว่าเขาด้วยอำนาจในมือ หรืออคติที่เกลียดชังเขา แต่เราต้องใช้พลังทางบวกยกเขากับเราให้สูงพ้นหลุมพรางความขัดแย้งให้ได้ - อย่ามองโลกในแง่ดีเกินไป เพราะเดี่ยวคนห่วยๆจะทำให้เราเสียคน
ผมละกลัวกับพ่อพระแม่พระที่มองโลกในแง่ดีจัดๆจนเป็นช่องให้คนห่วยๆทำร้ายเอาได้ ในโลกแห่งความเป็นจริงเราอาจจะต้องเผื่อพื้นที่เพื่อจะถอยห่างไว้บ้าง คนห่วยๆบางคนก็คิดได้เร็วและปรับตัวทำงานร่วมกันได้ แต่คนห่วยๆบางคนต้องใช้เวลา และคนห่วยๆบางคนก็ไม่สนว่าเราจะดีเพียงใด เขาจะสนเพียงตัวเขาจนมองไม่เห็นคนอื่น พึงระวังคนห่วยๆประเภทหลังให้มากครับ - ความดีชนะทุกสิ่ง
ความดีบางทีอาจเห็นผลช้า คนห่วยๆก็ยังเอาเปรียบเราอย่างไม่ลดละ ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่เมื่อความดีเบ่งบานมันงดงามเสมอครับ ฉะนั้นจงเชื่อในความดี เอาความดีเข้าแลกกับคนห่วยๆ ผมว่าสุดคุ้มเลยละ - อภัย
ก็ยังใช้ได้อย่างดีเยี่ยมกับประโยคที่ว่า “ให้อะไรก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าให้อภัย” บางทีคนห่วยๆเข้าอาจจะไม่ตั้งใจจะห่วยแต่เพราะสภาพแวดล้อมที่ผ่านมา หรือความจำเป้นอะไรบางอย่างทำให้เขาเป็นแบบนั้น เมื่อเราขอโทษเขาแล้ว ก็ตามด้วยอภัยเถอะครับ เพราะการให้อภัย(ด้วยเจตนาที่จริงใจ) มันเหมือนกับยกอะไรที่หนักอึ้งที่ทับจิตวิญญาณเราอยู่ออกไป เราจะรู้สึกเบาหวิว สบายตัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เหมือนทุกอย่างสิ้นสุดลงตรงนั้น ไม่มีอะไรที่ต้องมาขัดเคืองหัวใจอีกแล้ว
5 เทคนิคพิชิตคนห่วยนี้จะสร้างเกราะป้องกันไม่ให้คนห่วยเข้ามากล้ำกรายลงลึกภายในจิตวิญญาณแห่งความดีของท่านได้ และสิ่งสำคัญคือ จะป้องกันท่านไม่ให้กลายเป็นคนห่วยไปซะเองได้เป็นอย่างดีอีกด้วยครับ