สอนอย่างไรให้มันฝังหัว
ไหนๆก็ไหนๆสำหรับในวันครูเช่นนี้ ผมขอนำเสนอสาระที่เกี่ยวกับครูๆ นั่นคือ วิธีการสอนอย่างไรให้มันฝังหัว แบบได้ผลสุดๆ มาดูกัน
ในวาระวันครูวันนี้ ผมขอเชิดชูคุณครูทุกท่านที่สั่งสอน,ให้คำปรึกษาและเมตตาผมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นครูคนแรกของผม คือ คุณพ่อคุณแม่ ครูอาจารย์ตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงจบมหาวิทยาลัย รวมถึงคุณครูนอกห้องทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และที่สำึัญ คือ ครูทุกๆครูที่ชื่อว่า “ปัญหา” ขอขอบคุณอย่างสุดซึ้งครับ
วันนี้วันครูผมก็เลยอยากจะเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ เล่าทีไรก็ยังน่าสนใจเสมอ กับเรื่องของวิธีการหรือรูปแบบการสอนอย่างไรให้ได้ผลและงานสอน คือ งานหลักของครูแต่ก็ยังพบว่าคุณครูหลายคนมีปัญหาเรื่องการสอนนี้ละครับ เพราะในปัจจุบันผมยังเห็นครูหรือวิทยากรหลายท่านยังใช้วิธีการสอนรูปแบบเดิมๆ แต่คาดหวังผลเปลี่ยนแปลงที่มากกว่า ซึ่งเป็นไปได้อยากครับ
ก่อนอื่นผมจะให้ทุกท่านดูแผนผังนี้ก่อน
นี้คือ ปิรามิดแห่งการเรียนรู้ (Learning Pyramid) คือ ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ตีพิมพ์ในวารสาร Harvard Business Review ที่มีการทำลองการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต่างๆ และมีการทดสอบประสิทธิภาพการจดจำการเรียนรู้ และได้ผลออกมาเป็นเปอร์เซนต์ดังภาพข่้างบน
- การสอนแบบบรรยาย (Lecture) ได้ผล 5%
- การสอนแบบให้อ่านเอง (Reading) ได้ผล 10%
- การสอบแบบให้ฟังและได้เห็น (Audiovisual) ได้ผล 20%
- การสอนแบบทำเป็นตัวอย่างหรือสาธิต (Demonstration) ได้ผล 30%
- การสอนแบบแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน (Discussion) ได้ผล 50%
- การสอนแบบให้ลงมือทำฝึกหัดด้วยตนเอง (Practice Doing) ได้ผล 75%
- การสอนแบบให้ผู้เรียนสามารถสอนคนอื่นได้ (Teach others) ได้ผล 90%
จะสังเกตว่าการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือทำฝึกหัดด้วยตนเองและเน้นให้ผู้เรียนได้เป็นผู้สอนเองจะส่งผลต่อประสิทธิภาพสูงมาก ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนสมัยก่อน ไม่มีอุปกรณ์ไอทีอย่างสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปอัดวิดีโอหรืออัดเสียงได้ แต่อาศัยเพียงการครูพักลักจำแล้วนำไปปฏิบัติจนเกิดความชำนาญและสามารถสอนลูกสอนหลานต่อได้ จนสามารถสืบทอดวัฒนธรรมและวิชาความรู้ต่างๆมาได้ยาวนานมาจนถึงปัจจุบันได้ ยอดเยี่ยมจริงๆครับ นับถือ นับถือ
แนวทางตามภาพข้างบน เราเองสามารถนำไปประยุกต์เพื่อเลือกวิธีการสอนหรือการฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ครับ ได้ผลยังไงนำมาแลกเปลี่ยนกันได้ครับ
ขอบคุณครูทุกคนใน 3 โลกนี้ครับ