วัคซีนใจ…ที่เราต้องฉีดเอง
ไม่น่าเชื่อว่าความร้ายกาจของโรคระบาดอย่างโควิด19 จะเล่นงานมนูษยศาสตร์ซะอ่วมอรทัย เอาจริงๆนะ นึกภาพไม่ออกเลยว่าระดับคนติดเชื้อเป็นร้อยๆล้านทั่วโลกจะเป็นยังไง ตอนนี้นึกออกแล้ว ไอ้เราเองก็ยังเคยโดนหางเลขเฉียดเกือบติดไปเหมือนกัน ตอนนี้ทำได้ดีที่สุด คือ การระมัดระวังตัวเองให้ดีที่สุด และที่สำคัญ คือ การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค แต่สังเกตว่าบางคนฉีดกันไปแล้ว 2 เข็มบ้าง 3 เข็มบ้าง 4 เข็มบ้าง แต่ทำไมยังมีอาการกังวล ใช้ชีวิตแบบกล้าๆกลัวๆ และยิ่งไปกว่านั้น คือ การเปลี่ยนแปลงต่างๆที่โหมเข้ามาเนื่องจากผลข้างเคียงของการระบาดของโรคโควิด 19 ไม่ว่าจะเป็นรายจ่ายลดลง ความเครียดเนื่องจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เคยออกเที่ยวได้ ก็ไม่ได้ไป หงุดหงุด จนท้ายที่สุด คือ อาการทางจิต หนักๆเลยก็ถึงกับเป็นซึมเศร้าจนทำร้ายชีวิตตัวเอง
ไหนๆก็ฉีดวัคซีนทางกายไปกันแล้ว เลยอยากจะชวนทุกคนมาฉีดวัคซีนทางใจเพื่อรักษาใจให้อยู่ดีพร้อมก้าวกันต่อไปกันครับ
วัคซีนใจไม่ต้องไปจองที่ไหนครับ หันกลับมาที่ตัวเอง จองที่ตัวเองเป็นคิวแรกและที่สำคัญ คือ ต้องลงมือฉีดเอง
วิธีฉีดวัคซีนใจมีขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้
1.เห็นตามความเป็นจริง
ข้อแรกสำคัญครับ เมื่อเหตุการณ์เลวร้ายได้เกิดขึ้นโปรดจงใช้หัวใจแห่งความเป็นจริงมองให้เห็นว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นของมันแบบนั้น มันมีเหตุและผลของมัน มันเกิดขึ้นได้ มันก็ดับหายไปได้ มันอยู่กับเราได้ไม่นาน เหมือนสายน้ำที่ไหลผ่านเราแล้วไม่เคยย้อนกลับคืนมา หากวันไหนที่เราบังเอิญพลาดไปติดโควิดเข้าก็โปรดให้อภัยตัวเอง มองตามความเป็นจริงว่า คนอื่นก็ติด ติดได้ก็รักษาให้หายได้ มองทุกอย่างตามความเป็นจริงจ้า เครื่องมือที่จะเท่าทั้นสิ่งต่างๆจนเห็นความเป็นจริงได้คมชัดและจับความจริงได้อย่างรวดเร็ว คือ สติ
2. เข้าใจมันจริงๆ
เมื่อเราเท่าทันในเหตุอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นแล้ว โปรดน้อมนำสู่การทำความเข้าใจ เช้าใจในความเป็นไปในสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามา มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และสุดท้ายก็สลายไป มันเป็นของมันอย่างนั้น สิ่งสำคัญ คือ ความเข้าใจ ความเข้าใจจะทำให้เราเริ่มคลี่คลาย ภาวะเริ่มเหมือนแบบของหนักๆจะเริ่มเบาลง
3. ยอมรับมันจริงๆ
เมื่อเข้าใจแล้ว ขั้นต่อมา คือ การยอมรับ การยอมรับไม่ได้หมายถึงการยอมแพ้ จบกันไป ไม่ใช่แบบนั้น การยอมรับ คือ การเปิดใจให้เข้าถึงความเป็นไปที่ไม่อาจต้านทานได้ อะไรที่เกิดขึ้นแล้ว มันเกิดขึ้นแล้ว หน้าที่ของเรา คือ การยอมรับและหาทางแก้ไข อย่าไปรังเกียจมัน แต่จงมองมันอย่างเป็นมิด จงขอบคุณมัน จงหาสิ่งดีๆที่เป็นโอกาสในความเลวร้ายนั้นๆ
4. ปรับตัวอย่างจริงจัง
มาถึงสิ่งสำคัญที่เมื่อผ่านทั้ง 3 ขั้นตอนดังกล่าวแล้ว ภาวะสุกงอมปรากฎสู่การลงมือทำเพื่อทำทุกอย่างให้ดีขึ้น จงใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาให้มีค่าที่สุด โปรดอย่าละเลยมันจนทำพลาดอีกครั้ง ให้อภัยตัวเองและลงมือทำด้วยความเชื่อว่าทุกอย่างมันต้องดีขึ้น กล้าหาญลุกขึ้นแล้วก้าวต่อ แม้จะเต็มไปด้วยบาดแผล เดินต่อไป เดินต่อไป
ทุกครั้งที่ผ่านเรื่องเลวร้ายไปได้โปรดจงภูมิใจในตัวเองว่าเรานี้ช่างแข็งแกร่ง มันเหมือนกับการฉีดวัคซีนใจให้กับตัวเองอยู่อย่างสม่ำเสมอ และเมื่อภูมิใจเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆอะไรจะเกิดขึ้นอีกในภายภาคหน้า เขื่อมั่นได้เลยว่ามันจะไม่สามารถทำร้ายใจเราได้อีกต่อไป
